แหล่งเรียนรู้อำเภอหนองหญ้าไซ
1.ห้องสมุดประชาชนอำเภอหนองหญ้าไซ
ห้องสมุดประชาชนอำเภอหนองหญ้าไซ ตั้งขึ้น ณ ปี 2531 อยู่ที่หมู่ที่ 5 ตำบลหนองหญ้าไซ อำเภอหนองหญ้าไซ จังหวัดสุพรรณบุรี บนเนื้อที่ 2 งาน ในเขตที่ว่าการอำเภอหนองหญ้าไซ ก่อสร้างขึ้นด้วยเงินงบประมาณของกรมการศึกษานอกโรงเรียน กระทรวงศึกษาธิการ เมื่อปีงบประมาณ 2530 จำนวนเงิน 550,000 บาท และเปิดให้บริการแก่ประชาชน และนักศึกษา เมื่อ วันที่ 16 มิถุนายน 2532
2.แหล่งการเรียนรู้ โบราณคดีหนองราชวัตร
ความเป็นมาของโครงการขุดค้น
เมื่อวันที่ ๑๒ มิถุนายน ๒๕๔๖ สำนักงานศิลปากรที่ ๒ สุพรรณบุรี ได้รับแจ้งจากองค์การบริหารส่วนตำบลหนองราชวัตร อำเภอหนองหญ้าไซ จังหวัดสุพรรณบุรี ว่ามีการพบหลักฐานโบราณวัตถุเป็นจำนวนมากจากการขุดปรับหน้าดินในบริเวณใกล้ๆ กับที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลหนองราชวัตร สำนักงานศิลปากรที่ ๒ สุพรรณบุรี โดย นายเขมชาติ เทพไชย ผู้อำนวยการสำนักงานฯและนายอรุณศักดิ์ กิ่งมณี นักโบราณคดี ๗ว. หัวหน้ากลุ่มวิชาการโบราณคดี ได้ดำเนินการตรวจสอบพื้นที่แหล่งโบราณคดีในเบื้องต้น ผลจากการสำรวจพื้นที่แหล่งซึ่งถูกขุดตักดินเพื่อปรับพื้นที่เนินดินให้เป็นพื้นที่เพาะปลูกอ้อยได้พบโบราณวัตถุเป็นจำนวนมาก ประกอบด้วย ชิ้นส่วนโครงกระดูกมนุษย์ ขวานหินขัดชิ้นส่วนกำไลหิน กระดูกสัตว์ และเศษภาชนะดินเผาเป็นจำนวนมาก โดยมีโบราณวัตถุชิ้นเด่น คือ ชิ้นส่วนภาชนะดินเผาที่เรียกว่า “หม้อสามขา” ซึ่งเคยได้พบจากแหล่งโบราณคดีบ้านเก่า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี
3.แหล่งเรียนรู้วัดหนองหลวง
ประวัติความเป็นมา
ตั้งอยู่หมู่ที่ 5 ตำบลหนองหญ้าไซ อำเภอหนองหญ้าไซ จังหวัดสุพรรณบุรี มีเนื้อที่ 25 ไร่ 3 งาน อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของจังหวัดสุพรรณบุรีเดิมวัดหนองหลวงชื่อ วัดสระปทุม ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อใหม่ว่า วัดหนองหลวง ตามทำเนียบของกรมการศาสนากระทรวงศึกษาธิการ วัดหนองหลวงตั้งขึ้น พ.ศ. 2305 เป็นวัดที่มีอดีตยาวนานวัดหนึ่ง วัดนี้ตั้งมาก่อนการเสียกรุงศรีอยุธยาถึง 5 ปี และถ้าเปรียบกับการตั้งกรุงเทพมหานครอมรรัตนโกสินทร์ฯแล้ว วัดหนองหลวงยังตั้งมาก่อนถึง 20 ปี นับตั้งแต่ พ.ศ.2305 จนถึงปัจจุบัน วัดหนองหลวงจะมีอายุยาวนานถึง 236 ปี ด้วยกาลเวลาอันยาวนานเช่นนี้สิ่งก่อสร้างวัดหนองหลวงย่อมสึกกร่อนเสียหายใช้การไม่ได้ จึงมีการปรับปรุงพัฒนาด้วยความตั้งใจอันแรงกล้าของพระครูศรีกัลยาณคุณ เจ้าอาวาสวัดหนองหลวงองค์ปัจจุบัน กอปรกับความสามัคคีของประชาชนผู้ศรัทธาได้รวมพลังกันก่อสร้างสิ่งต่าง ๆ อาทิ กุฏิศาลาการเปรียญ ศาลาอเนกประสงค์ แท็งก์น้ำ กำแพงรอบบริเวณรอบวัด โบสถ์ เมรุ สระน้ำ และได้ปลูกดอกไม้ยืนต้น ไม้ประดับ ไม้ดอก ปรับพื้นบริเวณวัดเพื่อสร้างสถานภาพสิ่งแวดล้อมให้ร่มรื่น จนได้รับเกียรติจากกรมศาสนาประกาศให้วัดหนองหลวงเป็นวัดพัฒนาตัวอย่างเมื่อปี 2525
4.แหล่งเรียนรู้ศูนย์ส่งเสริมธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ประวัติความเป็นมา
เกิดจากความต้องการให้ความรู้แก่ผู้ที่สนใจด้านเกษตรกรรมและคืนความสมดุลให้กับธรรมชาติ นายเฉลียว ปานเนียม ได้ไปดูงานในสถานที่ต่าง ๆ จึงเกิดความคิดที่จัดตั้งศูนย์ฯ นี้ขึ้น เพื่อตอบแทนบุญคุณแผ่นดินและแสดงความจงรักภักดีต่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยการดำเนินตามโครงการเศรษฐกิจพอเพียง และส่งเสริมผู้สนับสนุน ผู้ที่สนใจเข้าร่วมอบรมการทำเกษตรธรรมชาติโดยไม่รบกวนค่าใช้จ่าย จากการปฏิบัติที่ผ่านมาปรากฏว่ามีผู้ที่มาเยี่ยมงานได้เข้ามาดูงานกันมากและได้ช่วยเหลือผู้ต้องการได้รับความรู้เรื่องการทำเกษตรธรรมชาติเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อส่วนรวม
5.แหล่งเรียนรู้ ศูนย์เศรษฐกิจพอเพียงบ้านหนองเต่าทอง
ประวัติความเป็นมา
ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านหนองเต่าทองเกิดจากความต้องการให้ความรู้แก่เกษตรกรของนายสุกรรณ์ สังข์วรรณ เนื่องจากการที่นายสุกรรณ สังข์วรรณได้เป็นวิทยากรด้านการพัฒนาที่ดิน และการเกษตรทุกสาขาจึงจัดองค์ประกอบในการจัดอาชีพให้มีความเชื่อมโยง เกื้อกูลกันของกิจกรรมในแปลงเพื่อมุ่งสู่การทำการเกษตรอย่างยั่งยืนภายใต้ระบบเศรษฐกิจ พอเพียงและมุ่งเน้นการบริหารจัดการทรัพยากรในพื้นที่เป็นหลัก
6.ศูนย์เรียนรู้ชุมชนเศรษฐกิจพอเพียง ณ บ้านหนองกระโดนมน
ความเป็นมา ของศูนย์การเรียนรู้ จากการประชุมวางแผน โดยวิธีประชาคมหมู่บ้าน ประชาชนในหมู่บ้านหนองกระโดนมน มีความคิดที่จะรวบรวมความรู้ภูมิปัญญาต่างๆ ที่มีอยู่ในหมู่บ้าน ส่วนใหญ่ประชาชนให้ความสนใจเกี่ยวกับวิถีชีวิตชุมชนแบบเศรษฐกิจพอเพียงมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชน ให้อยู่เย็นเป็นสุข
หน่วยงานราชการต่างๆ ให้ความสนใจและนำผู้นำชุมชนเข้าร่วมประชุม อบรมศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับการทำการเกษตรตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพี่ยงการอบรมการแปรรูปปลาส้มจืด การเพาะเลี้ยงจุลินทรีย์การทำปุ๋ยชีวภาพ การเลี้ยงสุกร ประกอบกับผู้นำหมู่บ้านและประชาชนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ปัจจุบันบ้านหนองกระโดนมน จึงเป็นแหล่งเรียนรู้ชุมชนเศรษฐกิจพอเพียงทั้งชุมชน โดยมีกำนันแมน ภูผา และคณะทีมงาน ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี